ปัญหาเซลลูไลท์ เป็นการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใต้ผิวหนังที่ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีลักษณะเป็นคลื่น เป็นลอน หรือเป็นผิวเปลือกส้ม ซึ่งเกิดจากการที่เซลล์ไขมันสะสมตัวมากเกินไปและดันขึ้นมาใต้ผิวหนัง โดยมีเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวหนังดึงรั้งไว้ด้านล่าง การแก้ไขปัญหาเซลลูไลท์ และกำจัดไขมันส่วนเกินจึงต้องอาศัยการจัดการที่หลากหลายวิธี เรามาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่ช่วยในการกำจัดเซลลูไลท์ภายในร่างกาย
เซลลูไลท์ คืออะไร
เซลลูไลท์ (Cellulite) คือ การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่ทำให้ผิวมีลักษณะคล้าย ผิวเปลือกส้ม เป็นคลื่น หรือเป็นลอนบุ๋ม เกิดขึ้นเมื่อ เซลล์ไขมัน ใต้ผิวหนังดันตัวขึ้นมาและเกิดการดึงรั้งของ เส้นใยคอลลาเจน ที่เชื่อมระหว่างผิวหนังกับกล้ามเนื้อชั้นล่าง ทำให้เกิดแรงตึงที่ไม่สม่ำเสมอใต้ผิวหนัง ถึงแม้ว่าจะเกี่ยวข้องกับการสะสมของไขมัน แต่ก็เป็นปัญหาโครงสร้างใต้ผิวหนังที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกรูปร่าง ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางฮอร์โมน พันธุกรรม และการไหลเวียนของเลือดด้วย

เซลลูไลท์ สาเหตุเกิดจากอะไร
ปัญหาเซลลูไลท์ เป็นการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่ทำให้เกิดลักษณะคล้ายผิวเปลือกส้ม ซึ่งเกิดจากความซับซ้อนของโครงสร้างใต้ผิวหนัง การสะสมของไขมัน และปัจจัยทางฮอร์โมนที่ส่งผลกระทบต่อผิว
- การสะสมของเซลล์ไขมันที่ขยายตัว เมื่อเซลล์ไขมันในชั้นใต้ผิวหนังขยายตัวใหญ่ขึ้น จะดันขึ้นมาที่ชั้นผิวหนังด้านบน ทำให้เกิดแรงกดและทำให้ผิวเกิดเป็นคลื่นหรือเป็นลอน
- การดึงรั้งของเส้นใยคอลลาเจน เส้นใยคอลลาเจนที่ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างผิวหนังกับกล้ามเนื้อชั้นล่างเกิดการแข็งตัว หนาตัวขึ้น หรือดึงรั้งผิวลงไปด้านล่าง
- การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองที่ผิดปกติ การไหลเวียนที่ไม่ดีจะทำให้ของเสีย ของเหลว และไขมันสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังมากเกินไป ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการบวม
- อิทธิพลของฮอร์โมน ฮอร์โมนเอสโตรเจน มีบทบาทสำคัญต่อการเกิดเซลลูไลท์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสเกิดเซลลูไลท์ได้มากกว่าผู้ชาย
- พันธุกรรม ปัจจัยทางพันธุกรรมมีผลต่อโครงสร้างผิว ความหนาแน่นของเส้นใยคอลลาเจน และแนวโน้มในการสะสมไขมัน ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าบุคคลใดมีโอกาสเกิดเซลลูไลท์ได้มากน้อยแค่ไหน
- ความเสื่อมของผิวตามอายุ เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังจะบางลงและสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้โครงสร้างใต้ผิวหนังที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นสามารถมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นจากภายนอก
อันตรายจากเซลลูไลท์
โดยทั่วไป เซลลูไลท์ถือเป็นภาวะทางความงามที่ไม่มีอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพร่างกายโดยตรง แต่เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความผิดปกติบางประการที่เกิดขึ้นในระบบไหลเวียนของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ดังนี้
- ปัญหาการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง การสะสมของไขมันและของเหลวที่ก่อตัวเป็น เซลลูไลท์ อาจกดทับเส้นเลือดและระบบน้ำเหลือง
- สัญญาณของความไม่สมดุลของฮอร์โมน การเกิดเซลลูไลท์ มักมีความเกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะเอสโตรเจนที่ลดลง
- การอักเสบของเนื้อเยื่อไขมัน ในบางกรณี การขยายตัวของเซลล์ไขมันที่รุนแรงและแรงกดทับของเส้นใยคอลลาเจนอาจนำไปสู่การอักเสบเรื้อรังในเนื้อเยื่อไขมัน
- ผลกระทบด้านสุขภาพจิตและความมั่นใจ แม้จะไม่ใช่ปัญหาทางร่างกาย แต่เซลลูไลท์เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจในรูปร่าง
- ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะบวมน้ำเรื้อรัง หากปัญหาเซลลูไลท์ เกิดขึ้นร่วมกับภาวะการไหลเวียนของน้ำเหลืองบกพร่อง อาจนำไปสู่ภาวะบวมน้ำเรื้อรังในระยะยาว

รวมวิธีลดเซลลูไลท์ แก้ไขวิธีไหนได้บ้าง
การลดปัญหาเซลลูไลท์ ต้องอาศัยการผสมผสานวิธีการที่หลากหลาย ตั้งแต่การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อลดไขมัน ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ ดังนี้
การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดเซลลูไลท์ เนื่องจากช่วยลดปริมาณไขมันในร่างกาย โดยรวม ทำให้เซลล์ไขมันใต้ผิวหนังมีขนาดเล็กลง และลดแรงดันที่ดันผิวขึ้นมา ควรเน้นการออกกำลังกายแบบฝึกความแข็งแรง เช่น การยกน้ำหนัก หรือการทำสควอท เพื่อช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ บริเวณที่มีเซลลูไลท์ ซึ่งจะทำให้ผิวดูแน่นและตึงกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การมีกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังที่แข็งแรงจะช่วยพยุงและทำให้ลักษณะของผิวเปลือกส้มมองเห็นได้ยากลง
การควบคุมอาหาร
การควบคุมอาหารเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการกับเซลลูไลท์ โดยมีเป้าหมายหลักคือการลดไขมันสะสมและลดอาการบวมน้ำ ควรเน้นการบริโภคอาหารที่มีกากใยสูง และลดการบริโภคเกลือ น้ำตาล และอาหารแปรรูป เพราะอาหารเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดการคั่งของน้ำและของเสียในร่างกาย ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ระบบไหลเวียนของน้ำเหลืองทำงานได้ดีขึ้น และช่วยขับของเสียออกจากเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมและทำให้เซลลูไลท์ดูจางลง
การนวดและการสครับ
การนวดบริเวณที่มีเซลลูไลท์ อย่างสม่ำเสมอด้วยมือ หรืออุปกรณ์นวดเฉพาะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองในบริเวณนั้น ทำให้การสะสมของของเหลวและของเสียใต้ผิวหนังลดลง การนวดควรทำอย่างต่อเนื่องและใช้แรงกดที่เหมาะสมเพื่อช่วยสลายไขมันและคลายพังผืดที่ดึงรั้งผิว นอกจากนี้ การสครับผิวเป็นประจำยังช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งช่วยให้เซลลูไลท์มองเห็นได้ยากขึ้นอีกด้วย
การใช้ครีมลดไขมันเฉพาะที่
การใช้ครีมลดเซลลูไลท์หรือครีมลดไขมันเฉพาะที่ สามารถช่วยเสริมการรักษาได้ โดยส่วนผสมหลักที่มักใช้คือ คาเฟอีน ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยสลายไขมันได้เล็กน้อย นอกจากนี้ เรตินอยด์ยังเป็นสารที่ช่วยเพิ่มความหนาของผิวหนังชั้นนอก ทำให้ผิวดูแน่นขึ้นและปกปิดรอยบุ๋มของเซลลูไลท์ ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้ครีมควรใช้ควบคู่ไปกับการนวดและการปรับพฤติกรรมจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หัตถการเครื่องยกกระชับและลดไขมัน
ได้แก่ เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) หรือคลื่นเสียงความถี่สูง (HIFU) หลักการคือการส่งพลังงานลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อช่วยลดเซลล์ไขมันบางส่วน พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้โครงสร้างผิวแน่นกระชับขึ้นและผิวเรียบเนียนขึ้น สามารถขจัดเซลลูไลท์ได้
การดูดไขมันลดเซลลูไลท์
การดูดไขมัน เหมาะสำหรับกรณีที่มีไขมันสะสมในบริเวณนั้นจำนวนมาก เพื่อช่วยลดปริมาณไขมันและลดแรงดันใต้ผิวหนัง แต่มีข้อควรระวังคือ การดูดไขมันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้มได้โดยตรง จึงมักต้องทำควบคู่กับหัตถการอื่นด้วย
สรุป เซลลูไลท์ควรจัดการวิธีไหนดี
การกำจัดเซลลูไลท์ ต้องเริ่มจากการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุด้วยการควบคุมอาหาร เพื่อลดไขมันสะสมและลดการบริโภคโซเดียม รวมถึงการออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน เพื่อเพิ่มความตึงกระชับของกล้ามเนื้อ หากเซลลูไลท์อยู่ในระดับปานกลางถึงรุนแรง ควรพิจารณาหัตถการทางการแพทย์ เช่น การใช้คลื่นพลังงาน เพื่อลดไขมันและกระตุ้นคอลลาเจน หรือใช้การดูดไขมัน เพื่อกำจัดไขมันใต้ผิวหนังร่วมกับเทคนิคอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ผิวกระชับ ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้ค่อนข้างนาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Tel : 064-932-3365
Line : @365mcthailand
Facebook : 365mc Thailand
IG : 365mc_thailand
Tiktok : 365mcthailand
Youtube : 365mcThailandOfficial