ใบหน้าเรียวสวยได้รูป ไม่มีปัญหาเหนียงหลายชั้นกวนใจ อาจกล่าวได้ว่าคือความฝันของใครหลายคน เพราะเหนียงหรือไขมันสะสมใต้คาง ไม่ได้ทำให้ใบหน้าดูใหญ่ แต่ยังเป็นตัวการสำคัญที่บดบังความคมชัดของกรอบหน้า ทำให้การดูดไขมันเหนียง กลายเป็นหัตถการยอดฮิตที่ช่วยกำจัดปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด มอบผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ค่อนข้างรวดเร็ว แต่ดูดไขมันเหนียง ข้อเสียและข้อควรระวังมีอะไรบ้าง สำหรับผู้ที่ตัดสินใจใช้บริการเป็นครั้งแรก ตามมาเช็กกันได้เลย
ก่อนเช็กข้อเสีย มารู้ก่อนว่าการดูดไขมันเหนียงคืออะไร
การดูดไขมันเหนียง หรือ Submental Liposuction (Double Chin Liposuction) เป็นหัตถการขนาดเล็กที่ใช้เครื่องมือลักษณะเป็นท่อขนาดเล็ก (Cannula) สอดผ่านแผลเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังบริเวณใต้คาง เพื่อทำการดูดไขมันส่วนเกินที่สะสมเป็นก้อนอยู่บริเวณนั้นออกมาอย่างตรงจุด ผลลัพธ์ที่ได้คือการช่วยให้กรอบหน้าแลดูคมชัดขึ้น เผยให้เห็นโครงหน้าที่ชัดเจน ลำคอดูดุจยาวระหงขึ้น เมื่อมองโดยรวมแล้ว ใบหน้าก็จะดูเรียวเล็กลงได้
ดูดไขมันเหนียง ข้อเสียที่คุณอาจมองข้าม
การดูดไขมันเหนียง เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการปรับให้มีกรอบหน้าที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งหลายคนอาจมองว่านี่เป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างเร็วและไม่ซับซ้อนมากนัก แต่ในความเป็นจริงการดูดไขมันเหนียง ข้อเสียอาจซ่อนอยู่โดยที่คุณไม่ทันคาดคิดได้ ดังนี้
1. ผลลัพธ์ไม่ถาวร หากไม่ควบคุมพฤติกรรม
“คาดหวังว่าทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่ความจริงต้องอาศัยวินัยในการดูแลตัวเองในระยะยาว”
การดูดไขมันเหนียงเป็นการกำจัดเซลล์ไขมันที่มีอยู่ออกไปอย่างถาวรในบริเวณนั้นก็จริง แต่หากคุณไม่ควบคุมอาหารการกิน ไม่ออกกำลังกาย และปล่อยให้น้ำหนักตัวโดยรวมเพิ่มขึ้น ไขมันใหม่ก็สามารถสะสมในบริเวณเดิมหรือส่วนอื่นของร่างกาย รวมถึงอาจทำให้ไขมันที่เหลืออยู่บริเวณคางขยายตัวขึ้นได้ แม้จะไม่กลับมาเท่าเดิม แต่ก็อาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูด้อยลง
2. เป็นการกำจัดไขมันเฉพาะจุด ไม่ใช่การลดน้ำหนัก
“ปริมาณไขมันจากเหนียงที่ดูดออกมีปริมาณเล็กน้อย จึงต้องคุมอาหารและออกกำลังกาย”
การดูดไขมันเหนียงมุ่งเน้นไปที่การลดปริมาณไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณใต้คางเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลให้น้ำหนักตัวโดยรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หากคุณมีปัญหาน้ำหนักตัวเกิน หรือต้องการลดน้ำหนักโดยรวม การดูดไขมันเหนียงไม่ใช่คำตอบหลัก
3. ไม่ช่วยเรื่องความหย่อนคล้อยของผิวหนัง
“แม้ไขมันจะลดลง แต่ผิวหนังอาจปรากฏความหย่อนคล้อยมากกว่าเดิม”
การดูดไขมันเหนียงจะช่วยลดปริมาณไขมัน แต่ไม่ได้ช่วยยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อย หากคุณมีปัญหาผิวหนังใต้คางหย่อนคล้อยมาก่อนแล้ว หรือผิวขาดความยืดหยุ่น (โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ) หลังดูดไขมันออกไป ผิวหนังส่วนนั้นอาจดูหย่อนยานกว่าเดิมได้ เพราะไม่มีไขมันคอยพยุง
4. แม้แผลจะเล็ก แต่อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
“แผลเล็กก็จริง แต่ความเสี่ยงติดเชื้อก็มองข้ามไม่ได้”
การดูดไขมันเหนียงเป็นการทำหัตถการที่ต้องมีการเปิดแผลผิวหนัง แม้แผลจะมีขนาดเล็ก แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ หากการดูแลแผลไม่ถูกสุขลักษณะ หรือทำในสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งการติดเชื้ออาจรวมถึงอาการปวด บวม แดง ร้อนบริเวณแผล มีหนอง หรือมีไข้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
5. ต้องใช้เวลาพักฟื้นและมีค่าใช้จ่าย
“ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาพักฟื้น อาจไม่ได้ตอบโจทย์กับทุกคน”
หลังการดูดไขมันเหนียง อาจจะต้องมีเวลาพักฟื้น ซึ่งโดยทั่วไปอาการบวมช้ำจะดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ แต่กว่าจะเข้าที่สมบูรณ์อาจใช้เวลา 1-3 เดือน (หรือนานกว่านั้น) ในช่วงแรกอาจต้องใส่ผ้ารัดหน้า และมีข้อจำกัดในการทำกิจกรรมบางอย่าง นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการทำหัตถการ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคลินิก เป็นเหตุให้มีการพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ ในการทำโปรแกรมดูดไขมัน เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายและงบประมาณของผู้รับบริการ อย่างโปรแกรมดูดไขมัน LAMS ของ 365mcthailand
ดูดไขมันเหนียง ข้อเสียและผลข้างเคียงที่ต้องระวัง
ดูดไขมันเหนียง ข้อเสียอีกหนึ่งอย่าง ที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจและเตรียมรับมือ คือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำหัตถการ การทราบข้อมูลเหล่านี้ล่วงหน้าจะช่วยให้สามารถประเมินและจัดการกับอาการต่าง ๆ ที่อาจตามมาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นอาการชั่วคราวและจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ เช่น
- อาการบวมและช้ำ : เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดหลังการดูดไขมัน โดยทั่วไปจะบวมมากที่สุดในช่วง 2-3 วันแรก และจะค่อยๆ ลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่อาการบวมเล็กน้อยอาจคงอยู่ได้นานหลายเดือน ส่วนรอยช้ำจจางหายไปในลักษณะเดียวกับการฟกช้ำทั่วไป
- อาการปวดหรือไม่สบายตัว : อาจมีความรู้สึกปวด ตึง หรือเจ็บระบมบริเวณที่ทำ โดยแพทย์จะให้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ
- อาการชาหรือการรับความรู้สึกเปลี่ยนแปลง : บริเวณใต้คางและรอบแผลอาจมีอาการชา หรือรู้สึกแปลบ ๆ ซึ่งเกิดจากการกระทบกระเทือนของเส้นประสาทเล็ก ๆ โดยส่วนใหญ่อาการจะกลับมาเป็นปกติภายในไม่กี่สัปดาห์ถึงหลายเดือน (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
- ผิวหนังไม่เรียบเนียนหรือเป็นก้อน : ในช่วงแรกหลังการดูดไขมัน ผิวอาจยังดูไม่เรียบเนียน อาจคลำได้เป็นก้อนไตแข็ง ๆ ซึ่งมักเกิดจากการอักเสบและกระบวนการสมานแผลภายใน การนวดเบาๆ ตามคำแนะนำของแพทย์อาจช่วยได้ และโดยทั่วไปจะค่อยๆ ดีขึ้น
- ความรู้สึกตึงบริเวณที่ทำ : เป็นเรื่องปกติที่อาจรู้สึกตึงบริเวณคอและใต้คางเนื่องจากอาการบวมและการหดตัวของผิวหนัง
- แผลเป็น : แม้แผลจากการดูดไขมันเหนียงจะมีขนาดเล็กมากและมักซ่อนอยู่ในตำแหน่งที่สังเกตได้ยาก แต่ก็ยังถือว่าเป็นแผลเป็น ซึ่งจะค่อย ๆ จางลงตามเวลา
- การติดเชื้อ : เป็นความเสี่ยงที่พบได้น้อยหากทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและดูแลแผลอย่างถูกวิธี สัญญาณของการติดเชื้อคือมีอาการปวด บวม แดง ร้อนบริเวณแผล หรือมีไข้
- น้ำเหลืองคั่ง : คือการมีของเหลว (น้ำเหลือง) สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง อาจต้องมีการเจาะระบายออก
วิธีลดความเสี่ยงจากการทำโปรแกรมดูดไขมันเหนียง
การตัดสินใจเข้ารับการดูดไขมันเหนียงเป็นการลงทุนเพื่อความงามและความมั่นใจ แต่เพื่อให้กระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่น และได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามแนวทางเพื่อลดความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนี้
การเลือกแพทย์และสถานพยาบาล
การเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่มีผลต่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ของการทำหัตถการ ดังนั้นการศึกษาข้อมูลและพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบในขั้นตอนนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการที่สามารถให้การดูแล และตอบสนองต่อความคาดหวังของคุณได้อย่างเหมาะสม
ปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด
การสื่อสารที่ชัดเจนและครบถ้วนระหว่างผู้รับบริการกับแพทย์ เป็นหัวใจสำคัญในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและสามารถดูแลให้ปลอดภัย การให้ข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ และออกแบบการรักษาที่สอดคล้องกับสภาวะร่างกายและความต้องการของคุณมากที่สุด
การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่ช่วยให้ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะที่พร้อมที่สุดสำหรับการผ่าตัดและกระบวนการฟื้นตัว การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ และส่งเสริมให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของยาชาหรือยาสลบ
การระงับความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผ่าตัด การทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของยาชาหรือยาสลบที่ใช้จะช่วยให้คุณตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกี่ยวข้อง และเตรียมตัวรับมือได้อย่างเหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการดูดไขมันเหนียงมักใช้ยาชาเฉพาะที่ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำกว่า
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมันเหนียงอย่างถูกวิธี
ช่วงเวลาหลังการผ่าตัดมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นตัวและผลลัพธ์สุดท้าย การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยลดอาการไม่พึงประสงค์ ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และส่งเสริมให้แผลหายเร็วขึ้น เพื่อให้คุณกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ
สังเกตอาการผิดปกติและรีบปรึกษาแพทย์ทันที
แม้จะมีการเตรียมตัวและดูแลอย่างดีแล้ว แต่การเฝ้าระวังอาการผิดปกติหลังผ่าตัดก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เพราะการตระหนักรู้ถึงสัญญาณเตือนต่าง ๆ และการติดต่อแพทย์ทันทีเมื่อมีข้อสงสัย จะช่วยให้สามารถรับมือกับปัญหาและการดูดไขมันเหนียง ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยอาการที่อันตรายจะมีหลากหลาย
สรุปการดูดไขมันเหนียง ข้อเสียที่ควรต้องระวังมีอะไรบ้าง
แม้การดูดไขมันเหนียงจะเป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูดี และดูสมส่วนขึ้นได้ แต่ในความเป็นจริงการดูดไขมันเหนียง ข้อเสียที่ต้องระวังก็มีอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวรหากขาดวินัย ความเสี่ยงต่อผิวหย่อนคล้อยหรือการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้น ไปจนถึงค่าใช้จ่าย เวลาพักฟื้น และความสำคัญของการเลือกแพทย์ผู้ให้บริการอย่างรอบคอบ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม
สำหรับใครที่สนใจอยากดูดไขมันเหนียง หรือทำหัตถการเพื่อดูแลรูปร่างประเภทอื่นกับ 365mc ของเรา ก็สามารถติดต่อสอบถาม หรือขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ช่องทางติดต่อ
Te : 064-932-3365
Line : @365mcthailand
Facebook : 365mc Thailand
IG : 365mc_thailand
Tiktok : 365mcthailand
Youtube : 365mcThailandOfficial
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัท ฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ 365mc Thailand สาขาเพลินจิต