“อยากผอมต้องอดอาหาร” “กินยาตัวนี้สิ ลดเร็วเห็นผลไว” “ซิทอัพเยอะ ๆ พุงจะได้ยุบ” ความเชื่อเหล่านี้วนเวียนอยู่ในโลกของการลดน้ำหนักมานานแสนนาน แต่เคยสงสัยไหมว่าทำไมทำตามแล้วยังไม่ผอมสักที หรือผอมแล้วก็กลับมาอ้วนใหม่ บางทีสิ่งที่คุณเชื่ออาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป บทความนี้จะพาคุณมาเคลียร์ทุกความเชื่อผิด ๆ สู่ความเข้าใจและวิธีที่ถูกต้อง รวมถึงทำความรู้จักทางเลือกดูดไขมันเพื่อลดไขมันเฉพาะจุดกันค่ะ
รวมวิธีลดความอ้วนที่คนมักจะทำผิด
ใช้อาหารเสริมหรือยาลดความอ้วน
ยาและอาหารเสริมเหล่านี้มักทำงานโดยใช้สารอันตรายเพื่อกดประสาทให้ไม่หิว บีบให้หัวใจทำงานหนักเพื่อเร่งการเผาผลาญหรือแค่ขับน้ำออกจากร่างกาย น้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็วจึงเป็นเพียงน้ำและมวลกล้ามเนื้อไม่ใช่ไขมัน เมื่อหยุดใช้น้ำหนักจึงดีดกลับขึ้นมามากกว่าเดิม พร้อมทิ้งผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น ใจสั่น ทำลายไต และเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้
อดอาหาร หรือกินน้อยเกินไป
การอดอาหารหรือจำกัดแคลอรี่ต่ำเกินไปจะทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดจำศีลโดยลดอัตราการเผาผลาญลงเพื่อเอาชีวิตรอด ร่างกายจะหันไปสลายกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานแทนไขมัน พอทนไม่ไหวแล้วกลับมากินปกติ น้ำหนักจึงดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วและมากกว่าเดิม
ตัดคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันทิ้งทั้งหมด
ร่างกายยังต้องการสารอาหารทุกหมู่ คาร์โบไฮเดรตที่ดีเป็นแหล่งพลังงานหลักให้สมองและร่างกาย ส่วนไขมันดีก็จำเป็นต่อการสร้างฮอร์โมนและดูดซึมวิตามิน การตัดสารอาหารกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทิ้งไปอย่างสิ้นเชิง จะทำให้ร่างกายขาดพลังงาน หงุดหงิดง่ายและไม่สามารถทำได้ในระยะยาว
เน้นออกกำลังกายหนัก แต่ไม่คุมอาหาร
หลายคนคิดว่าออกกำลังกายหนักแล้วจะกินอะไรก็ได้ แต่ความจริงคือการลดน้ำหนัก 80% มาจากการควบคุมอาหาร การกินเค้กชิ้นเดียวหรือชานมไข่มุกหนึ่งแก้วอาจให้แคลอรี่มากกว่าการออกกำลังกายเป็นชั่วโมง การออกกำลังกายอย่างเดียวจึงไม่สามารถชดเชยการกินที่แย่ได้
ลดเฉพาะส่วนทำได้จริงไหม ความจริงเรื่องการลดไขมันเฉพาะจุด
อยากลดพุงอย่างเดียว แขนขากระชับแล้ว คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในใจของใครหลายคนที่กำลังลดน้ำหนัก ความเชื่อเรื่องการออกกำลังกายเพื่อลดไขมันเฉพาะส่วนนั้นแพร่หลายมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วร่างกายของเราทำงานแบบนั้นจริงหรือ มาไขความกระจ่างกัน
ความเชื่อยอดฮิต ออกกำลังกายส่วนไหน ไขมันส่วนนั้นจะหายไป
หลายคนเข้าใจว่าถ้าอยากลดหน้าท้อง ก็ต้องเน้นท่าบริหารหน้าท้องเยอะๆ เช่น ซิทอัพ แพลงก์ หรือถ้าอยากลดต้นขา ก็ต้องเน้นท่าสควอช ลันจ์ เป็นต้น เพราะเชื่อว่าการใช้กล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ จะไปดึงไขมันที่สะสมอยู่บริเวณนั้นออกมาใช้โดยตรง
ความจริงทางวิทยาศาสตร์ร่างกายสลายไขมันอย่างไร
การสลายไขมันเป็นกระบวนการทั่วร่างกาย เมื่อร่างกายต้องการพลังงานร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเช่น อะดรีนาลีน เข้าสู่กระแสเลือด ฮอร์โมนเหล่านี้จะไปจับกับเซลล์ไขมันทั่วร่างกายไม่ใช่แค่ส่วนที่ออกกำลังกาย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแตกตัวของไขมันออกเป็นกรดไขมันอิสระ กรดไขมันเหล่านี้จะถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด และถูกนำไปใช้เป็นพลังงานโดยกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ทั่วร่างกายที่กำลังทำงาน ไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อส่วนที่เรากำลังโฟกัส ร่างกายเลือกเองว่าจะดึงไขมันจากส่วนไหน ลำดับการดึงไขมันจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมักขึ้นอยู่กับปัจจัยทางพันธุกรรมและฮอร์โมนเป็นหลัก บางคนอาจจะลงพุงก่อน บางคนลงสะโพกก่อน และเวลาลดไขมันส่วนที่มาทีหลังก็มักจะไปก่อน หรือบางทีส่วนที่ลดยากที่สุดก็อาจจะเป็นส่วนที่เรากังวลมากที่สุด
แล้วถ้าอยากให้ส่วนที่กังวล ดูเล็กลงจริง ๆ ต้องทำอย่างไร
- ควบคุมอาหาร: สร้างสภาวะ Calorie Deficit หรือ กินให้น้อยกว่าที่ใช้ โดยเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ลดของหวาน ของมัน ของทอด
- ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ: เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิก อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกิน
- ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง: เพื่อเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ เพิ่มการเผาผลาญ และทำให้รูปร่างกระชับ
- อดทนและสม่ำเสมอ: การลดไขมันต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ อย่าท้อถอยหากส่วนที่อยากลดยังไม่เห็นผลทันใจ
รวมวิธีลดความอ้วนที่ถูกต้อง
ควบคุมอาหารอย่างสมดุล ไม่ใช่การอด
การสร้างภาวะขาดดุลแคลอรี่คือสิ่งสำคัญ แต่ต้องไม่ใช่วิธีอดอาหาร ควรเน้นการเลือกกินอาหารที่มีคุณภาพสูงเช่น เพิ่มโปรตีนอย่างเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ เต้าหู้ เพื่อให้อิ่มนานและรักษามวลกล้ามเนื้อเพิ่มใยอาหารจากผักและผลไม้เพื่อช่วยระบบขับถ่ายและเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอย่างข้าวกล้อง ธัญพืชต่าง ๆ ที่จะให้พลังงานอย่างสม่ำเสมอ วิธีนี้จะทำให้คุณลดไขมันได้โดยไม่โทรม
ออกกำลังกายให้ครบ ทั้งคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง
การออกกำลังกายสองรูปแบบนี้ทำงานเสริมกัน คาร์ดิโอช่วยเผาผลาญแคลอรี่และไขมันได้ดี เสริมสร้างความแข็งแรงให้หัวใจและปอด ส่วนเวทเทรนนิ่งคือสิ่งสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพื้นฐานของร่างกาย ทำให้คุณเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น แม้ในขณะที่ไม่ได้ออกกำลังกาย
พักผ่อนให้เพียงพอและจัดการความเครียด
การนอนหลับไม่เพียงพอ น้อยกว่า 7-8 ชั่วโมงและความเครียดสะสมจะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายรวน โดยจะเพิ่มฮอร์โมนคอร์ติซอลและเกรลิน ซึ่งกระตุ้นให้เราอยากกินของหวานและอาหารแคลอรี่สูง อีกทั้งยังส่งเสริมการสะสมไขมันบริเวณหน้าท้อง การนอนให้พอและหาวิธีผ่อนคลายจึงเป็นส่วนสำคัญที่คนมักมองข้าม
ดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดวัน
น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย การดื่มน้ำให้เพียงพอประมาณ 8-10 แก้วต่อวันไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายสดชื่น แต่ยังช่วยลดความอยากอาหาร เพราะบางครั้งร่างกายสับสนระหว่างความหิวกับความกระหายน้ำ การดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารยังช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้นและกินในปริมาณที่น้อยลงได้อีกด้วย
ลดความอ้วนด้วยการดูดไขมัน ข้อควรรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง
เมื่อวิธีลดน้ำหนักอื่น ๆ ดูเหมือนจะไม่ได้ผลกับไขมันส่วนเกินบางจุดที่ไม่ยอมหายไป หลายคนอาจเริ่มมองหา การดูดไขมันเป็นทางออก แต่การดูดไขมันคืออะไรกันแน่ ใช่วิธีที่จะทำให้เราผอมเพรียวได้ในพริบตาอย่างที่เข้าใจหรือไม่หรือมีข้อเท็จจริงอะไรที่เราต้องรู้ก่อนตัดสินใจ มาทำความเข้าใจให้ถูกต้องกันค่ะ
ความเชื่อกับความจริง เคลียร์ให้ชัดเรื่องการดูดไขมัน
หลายคนเข้าใจผิดว่าการดูดไขมันคือการลดน้ำหนักแบบก้าวกระโดด และเมื่อทำแล้วรูปร่างจะสวยถาวรโดยไม่ต้องดูแลตัวเองอีก หรือบางคนอาจมองว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาสำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาก ๆ แต่ความจริงคือการดูดไขมันไม่ใช่ยาวิเศษสำหรับการลดน้ำหนักโดยรวมและไม่ได้การันตีความผอมถาวรหากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มันมีข้อจำกัดและข้อควรรู้มากมายที่เราต้องทำความเข้าใจก่อน
การดูดไขมันคืออะไร
ไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่คือการปรับรูปร่าง การดูดไขมันเป็นการศัลยกรรมเพื่อกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกิน เฉพาะจุดที่ไม่ตอบสนองต่อการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย เช่น บริเวณหน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขนหรือใต้คาง เพื่อให้สัดส่วนของร่างกายดูสมส่วนและกระชับขึ้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดน้ำหนักตัวโดยรวมลงมาก ๆ
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
- ผิวหนังไม่เรียบ เป็นคลื่น หรือเป็นรอยบุ๋ม
- อาการชา หรือการรับความรู้สึกเปลี่ยนแปลงบริเวณที่ทำ
- ผิวหนังเปลี่ยนสี หรือเกิดรอยแผลเป็น
- ภาวะบวมช้ำ หรือมีของเหลวคั่ง
- ในกรณีที่รุนแรงอาจเกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะภายใน หรือภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือด
ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมัน
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวค่อนข้างคงที่: คนที่เหมาะคือผู้ที่ควบคุมน้ำหนักได้ดีแล้วระดับหนึ่ง แต่ยังมีไขมันดื้อสะสมอยู่เฉพาะบางส่วนที่ลดยากจริง ๆ
- ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง: ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัดและการฟื้นตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้หรือปัญหาการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีผิวหนังยังมีความยืดหยุ่นดี: หลังดูดไขมันออกไป ผิวหนังจะต้องสามารถหดกระชับกลับเข้ารูปได้ดี หากผิวหนังหย่อนคล้อยมากอยู่แล้วการดูดไขมันอาจทำให้ผิวดูย้วยมากขึ้น อาจต้องทำศัลยกรรมอื่นร่วมด้วย เช่น การตัดหนังหน้าท้อง
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน และการรักษารูปร่างให้คงที่
- การพักฟื้นและการดูแลแผล: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น การสวมชุดกระชับ เพื่อลดอาการบวมและช่วยให้ผิวหนังเข้ารูป การทำความสะอาดแผลและการรับประทานยา
- ยังต้องคุมอาหารและออกกำลังกาย: รูปร่างที่สวยงามจากการดูดไขมันจะคงอยู่ได้ก็ต่อเมื่อคุณรักษาวินัยในการดูแลตัวเอง
- หลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักตัว: หากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ไขมันก็สามารถกลับมาสะสมในบริเวณอื่นของร่างกายหรือแม้แต่บริเวณที่เคยดูดไขมันไปแล้ว
- การติดตามผลกับแพทย์: ตามนัดหมายเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยและรับคำแนะนำเพิ่มเติม
สรุปก้าวข้ามความเชื่อผิด ๆ สู่การลดความอ้วนอย่างเข้าใจและยั่งยืน
การลดความอ้วนที่แท้จริงไม่ใช่การวิ่งตามทางลัดอย่างอาหารเสริม ยาลดความอ้วน หรือหวังผลจากการลดไขมันเฉพาะจุดโดยไม่เข้าใจกลไกของร่างกาย การดูดไขมันเป็นเพียงเครื่องมือปรับรูปร่าง ไม่ใช่การลดน้ำหนักโดยรวม ดังนั้นการมีความรู้ที่ถูกต้อง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอต่างหาก คือสิ่งสำคัญสู่สุขภาพดีและรูปร่างที่สมส่วนอย่างยั่งยืน ส่วนใครที่มีปัญหาไขมันเฉพาะจุดลดยากเกินแก้
สามารถปรึกษาแพทย์ของ 365mc Thailand เรามีเทคนิคการดูดไขมันที่ทันสมัย ใช้เทคนิค LAMS แผลเล็ก และบริการดูแลหลังทำโดยแพทย์ค่ะ
ช่องทางติดต่อ
Te : 064-932-3365
Line : @365mcthailand
Facebook : 365mc Thailand
IG : 365mc_thailand
Tiktok : 365mcthailand
Youtube : 365mcThailandOfficial
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัท ฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ 365mc Thailand สาขาเพลินจิต